รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)
.      เมื่อเราซื้อเครื่องประดับ อัญมณี เพชรพลอย ไม่ว่าจะเป็น แหวน สร้อยคอ จี้ ต่างหู กำไล สร้อยคอมือ สิ่งที่เราควรรู้ นอกจากคุณสมบัติต่างๆของอัญมณีแล้ว รูปแบบการฝังเพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond & Gems Setting) ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรศึกษา เพราะเป็นการแสดงถึงงานดีไซน์ เมื่อเราต้องการสั่งทำรูปแบบงานที่ ไม่เหมือนใคร เราอยากเป็นผู้ออกแบบเอง ก็จะสามารถสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้ รวมทั้งแต่ละรูปแบบงาน การสวมใส่ การใช้งาน ใส่แล้วเข้ากับตัวเองมากน้อยแค่ไหน รูปแบบไหนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะได้ไม่ผิดพลาดทีหลังนะคะ

แบบที่ 1) การฝังแบบหนามเตย (Prong Setting)

.      เป็นรูปแบบการฝังที่นิยมมากที่สุด การฝังรูปแบบนี้ จะมีทั้ง 4 เตย(ขา), 5 หรือ 6 เตย แล้วแต่ความชอบและเหมาะกับตัวเรือน ส่วนใหญ่การฝังแบบนี้จะนิยมกับเพชรทรงกลม แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน
ข้อเด่น : เน้นให้เพชรชูโดดเด่น ชูความสวยของเพชรเป็นอย่างมาก ทั้งยังช่วยให้เพชรดูมีประกายมากขึ้นอีกด้วย
VL_blog_web_201607_gems setting_01

แบบที่ 2) การฝังเพชรบนหนามเตย (Diamond Tipped)

.      เป็นการฝังที่ละเอียดมาก ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ เพราะหากฝังไม่ดี อาจทำให้เพชรแตกได้
ข้อเด่น : ทำให้เห็นเนื้อทองด้านบนน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มประกายบนหน้าเพชรให้มากยิ่งขึ้น

การฝังเพชรบนหนามเตย (Diamond Tipped) เป็นการฝังที่ละเอียดมาก ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ เพราะหากฝังไม่ดี อาจทำให้เพชรแตกได้ ข้อเด่น : ทำให้เห็นเนื้อทองด้านบนน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มประกายบนหน้าเพชรให้มากยิ่งขึ้น รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)การฝังเพชรบนหนามเตย (Diamond Tipped) เป็นการฝังที่ละเอียดมาก ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ เพราะหากฝังไม่ดี อาจทำให้เพชรแตกได้ ข้อเด่น : ทำให้เห็นเนื้อทองด้านบนน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มประกายบนหน้าเพชรให้มากยิ่งขึ้น รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 3) การฝังแบบหัวเรือ (V Prong Setting)

.      เป็นการฝังที่มีลักษณะเป็นรูปตัว V ทำมุมกับเหลี่ยมของเพชรพอดี
ข้อเด่น : ป้องกันการบิ่นหรือแตกของเพชรที่มีมุมแหลมอย่าง ทรงมาคี(Marquise), ทรงสี่เหลี่ยม(Princess), ทรงหัวใจ(Heart), ทรงหยดน้ำ(Pear)

การฝังแบบหัวเรือ (V Prong Setting) เป็นการฝังที่มีลักษณะเป็นรูปตัว V ทำมุมกับเหลี่ยมของเพชรพอดี ข้อเด่น : ป้องกันการบิ่นหรือแตกของเพชรที่มีมุมแหลมอย่าง ทรงมาคี(Marquise), ทรงสี่เหลี่ยม(Princess), ทรงหัวใจ(Heart), ทรงหยดน้ำ(Pear) รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 4) การฝังจิกไข่ปลา (Pave Setting)

.      เป็นการฝังอีกรูปแบบที่นิยม โดยใช้เพชรเม็ดเล็กๆฝังใกล้ๆกัน เป็นแพให้เต็มพื้นที่แหวน คล้ายๆไข่ปลา
ข้อเด่น : ทำให้ตัวเรือน ดูมีประกายเป็นระยิบระยับ นิยมนำมาฝังรอบตัววง

การฝังจิกไข่ปลา (Pave Setting) เป็นการฝังอีกรูปแบบที่นิยม โดยใช้เพชรเม็ดเล็กๆฝังใกล้ๆกัน เป็นแพให้เต็มพื้นที่แหวน คล้ายๆไข่ปลา ข้อเด่น : ทำให้ตัวเรือน ดูมีประกายเป็นระยิบระยับ นิยมนำมาฝังรอบตัววง รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 5) การฝังแบบไร้หนาม (Invisible Setting)

.      เป็นการฝังที่ค่อนข้างยาก ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญและ มีความปราณีตเป็นอย่างมาก นิยมฝังกับเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยม (Princess) ที่ต้องฝังตั้งแต่ 2 แถวขึ้นไป โดยไม่มีขอบของโลหะมาคั้นกลาง ทำให้ไม่มีอะไรมาบังประกายของตัวเพชร
ข้อเด่น : เป็นการทำให้เห็นหน้าเพชร พลอย แบบชัดเจน จึงทำให้มีความแวววาวเป็นประกายมากยิ่งขึ้น

การฝังแบบไร้หนาม (Invisible Setting) ฝังที่ค่อนข้างยาก ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญและ มีความปราณีตเป็นอย่างมาก นิยมฝังกับเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยม (Princess) ที่ต้องฝังตั้งแต่ 2 แถวขึ้นไป โดยไม่มีขอบของโลหะมาคั้นกลาง ทำให้ไม่มีอะไรมาบังประกายของตัวเพชร ข้อเด่น : เป็นการทำให้เห็นหน้าเพชร พลอย แบบชัดเจน จึงทำให้มีความแวววาวเป็นประกายมากยิ่งขึ้น รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 6) การฝังล็อค หรือฝังสอด (Channel Setting)

.      เป็นรูปแบบการฝังที่นำเพชรมาเรียงต่อกันเป็นแถวยาว เพชรจะถูกล็อคอยู่ในราง โดยไม่มีหนามเตย มาคั้นระหว่างเพชรแต่ละเม็ด รูปแบบการฝังนี้ฝังได้ทั้งแบบ ทรงสี่เหลี่ยม(Princess), ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า(Baguatte) และทรงกลม (Round)

การฝังล็อค หรือฝังสอด (Channel Setting) เป็นรูปแบบการฝังที่นำเพชรมาเรียงต่อกันเป็นแถวยาว เพชรจะถูกล็อคอยู่ในราง โดยไม่มีหนามเตย มาคั้นระหว่างเพชรแต่ละเม็ด รูปแบบการฝังนี้ฝังได้ทั้งแบบ ทรงสี่เหลี่ยม(Princess), ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า(Baguatte) และทรงกลม (Round) รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 7) การฝังหุ้ม (Bezel Setting)

รูปแบบการฝังที่มีขอบทองมาหุ้มตัวเพชรไว้โดยรอบ ถือเป็นการฝังที่แข็งแรงที่สุดในการฝังทั้งหมด
ข้อเด่น : การฝังแบบนี้จะช่วยให้เพชรดูเม็ดใหญ่ขึ้น ปกปิดตำหนิของเพชรได้เป็นอย่างดี และปกป้องขอบเพชร ไม่ให้ได้รับการกระแทก หรือเป็นรอยได้ แต่การปิดทึบทำให้แสงผ่านเข้าไปได้น้อย ประกายของเพชรจึงมีน้อยกว่าการฝังแบบอื่นๆ

การฝังหุ้ม (Bezel Setting) รูปแบบการฝังที่มีขอบทองมาหุ้มตัวเพชรไว้โดยรอบ ถือเป็นการฝังที่แข็งแรงที่สุดในการฝังทั้งหมด ข้อเด่น : การฝังแบบนี้จะช่วยให้เพชรดูเม็ดใหญ่ขึ้น ปกปิดตำหนิของเพชรได้เป็นอย่างดี และปกป้องขอบเพชร ไม่ให้ได้รับการกระแทก หรือเป็นรอยได้ แต่การปิดทึบทำให้แสงผ่านเข้าไปได้น้อย ประกายของเพชรจึงมีน้อยกว่าการฝังแบบอื่นๆ รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 7.1) การฝังหุ้มหัวท้าย (Half Bezel Setting)

.      เป็นการฝังที่คล้ายกับ Bezel Settting แต่จะหุ้มเฉพาะหัวท้ายของตัวเพชร
ข้อเด่น : ทำให้แสงผ่านเข้าไปได้มากขึ้น กว่าฝังหุ้มทั้งเม็ด

การฝังหุ้มหัวท้าย (Half Bezel Setting) เป็นการฝังที่คล้ายกับ Bezel Settting แต่จะหุ้มเฉพาะหัวท้ายของตัวเพชร ข้อเด่น : ทำให้แสงผ่านเข้าไปได้มากขึ้น กว่าฝังหุ้มทั้งเม็ด รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 8) การฝังแบบเหยียบหน้า (Flush Setting)

.      เป็นรูปแบบการฝังที่ตัวเพชรจะจมไปในเนื้อโลหะ คือหน้าเพชร จะเสมอกับตัวเรือน นิยมมากในแหวนผู้ชาย แหวนเกลี้ยง
ข้อเด่น : ตัวเพชรเนื้อเดียวกับตัวเรือน เป็นการป้องกันเพชรอย่างดี

การฝังแบบเหยียบหน้า (Flush Setting) เป็นรูปแบบการฝังที่ตัวเพชรจะจมไปในเนื้อโลหะ คือหน้าเพชร จะเสมอกับตัวเรือน นิยมมากในแหวนผู้ชาย แหวนเกลี้ยง ข้อเด่น : ตัวเพชรเนื้อเดียวกับตัวเรือน เป็นการป้องกันเพชรอย่างดี รูปแบบการฝังอัญมณี เพชร พลอย แบบต่างๆ (Diamond Gems Setting)

แบบที่ 9) การฝังแบบหนีบ (Tension Setting)

.      รูปแบบการฝังที่ใช้โลหะสองฝั่งในการยึดเกาะเพชรไว้
ข้อเด่น : ลักษณะการฝังจะดูสวย เท่ เพราะสามารถโชว์ความสวยงามของเพชรได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อควรระวังคือ การฝังรูปแบบนี้ไม่ควรใช้งานแบบสมบุกสมบัน ต้องใส่ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะความสามารถในการยึดติดของเพชรมีค่อนข้างน้อย และตัวเรือนจะต้องมีความหนาเพียงพอ มิฉะนั้น เพชร หรือ พลอยที่นำมาฝังจะหลุดออกได้ง่าย

แบบที่ 10) การฝังแบบหนีบหลายๆเม็ด (Bar Setting)

.      ฝังเพชรเรียงต่อๆกัน โดยมีทองมาคั้นกลาง แต่ควรระมัดระวังในการสวมใส่ เนื่องจากเพชรมีพื้นที่ในการยึดติดกับตัวเรือนค่อนข้างน้อย
ข้อเด่น : โชว์ตัวด้านข้างเพชรได้อย่างเต็มที่ นิยมทำรอบแหวน แต่การสวมใส่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากทั้งการกระแทก หยิบจับสิ่งของ

.     จะเห็นได้ว่ารูปแบบการฝังแต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้น หากชอบรูปแบบไหนแล้ว ก็ควรพิจารณาถึงการใช้งานการสวมใส่อีกด้วย ว่าชีวิตประจำวันเรา เหมาะกับงานรูปแบบนั้นๆหรือไม่ ถ้าเป็นคนหยิบจับสิ่งของที่ค่อนข้างบ่อย งานที่อาจโดยกระแทกได้บ้าง บางอย่างอาจไม่เหมาะกับ การใช้ชีวิตของเราเท่าไร ก็ควรเลือกรูปแบบที่เรียบๆ หรือฝังหุ้ม อาจจะเหมาะกว่า เพียงเท่านี้ ก็สามารถนำไปปรับใช้กับตนเองได้อย่างดี  เวนเลียร์ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขกับการใช้ชีวิต สนุกกับการเลือกเครื่องประดับคะ 🙂

Admin