5 ภาระสำคัญที่ต้องเตรียมการ สำหรับชีวิตใหม่ของคู่บ่าวสาว

5 ภาระ แต่งงาน ภาระ คู่บ่าวสาว เตรียมตัว วางแผน หมั้น พิธีการ วิธี เริ่ม ขั้นตอน สถานที่ แหวนหมั้น แหวนเพชร แหวนผู้หญิง แหวนผู้ชาย แหวนทองคำ แหวนทองขาว แหวนทองคำขาว โรงแรม งานเช้า งานเลี้ยง จัดเตรียม ชุดไทย ชุดบ่าวสาว รดน้ำสังข์

.       กว่าจะหาใครสักคนที่ตกลงปลงใจกันแล้วนั้น นานแสนนาน และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเตรียมสร้างครอบครัวใหม่ ก็มีภาระต่างๆมากมาย  โดยเฉพาะ การเตรียมความพร้อมด้านการเงินนั้น
ยิ่งยากกว่า ลองมาคำนวณดูคร่าวๆกันว่า หากจะต้อง “แต่งงาน” จะมีค่าใช้จ่ายอะไร เกิดขึ้นมาบ้าง แล้ว 5 ภาระสำคัญ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับชีวิตใหม่ของคู่บ่าวสาว

1.งบประมาณใช้จ่าย สำหรับแต่งงาน

-สินสอดทองหมั้น (แหวนหมั้น เครื่องประดับ เพชร ทองคำ รวมถึงเงินสด)
-ค่าชุดบ่าวสาว, ค่าถ่าย pre-wedding
-ค่าจัดงาน สถานที่ ค่าตกแต่ง อาหาร และออแกไนซ์จัดงาน
-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ของชำร่วย, การ์ดเชิญ และอื่นๆอีกจิปาถะ)
-ค่าทริปท่องเที่ยว สำหรับฮันนีมูน

นี่ขนาดคร่าวๆนะ ยังไม่นับยิบย่อย ทั้งแต่งหน้าทำผม ชุดเพื่อน ค่านั้น ค่านี่อีก
ไปดูอันต่อมาดีกว่า

2.ภาระบ้าน หรือ คอนโด สำหรับเรือนหอที่ต้องผ่อนชำระ

3.รถยนต์ ที่ต้องผ่อนชำระ

4.ค่าใช้จ่ายประจำวัน
ตามไลฟ์สไตล์ที่เรากำหนด ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การช็อปปิ้ง การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ต ค่าน้ำมัน

5.เงินออมที่ต้องเตรียมพร้อมไว้ :

– สำหรับเลี้ยงดูลูกในอนาคตเป็นเวลา ~20ปี
– กรณีในยามฉุกเฉิน (เจ็บป่วย หรือ อุบัติเหตุต่างๆ)
– เตรียมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ (เพื่อไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน)

.       ลองคิดคำนวณ ตัวเลขเล่นๆ โดยไม่นำเอาข้อ 1 ภาระเรื่องงานแต่งมารวม
จะมีค่าใช้จ่ายถึงเดือนละ 20,000 – 50,000 บาท สำหรับพนักงานกินเงินเดือนอย่างเราๆ
ทั้งนั้น จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับรายได้ และไลฟ์สไตล์ ของแต่ละบุคคล

.       หากจะต้องจัดงานแต่งงานด้วยแล้ว ถือเป็นภาระที่หนัก ถึงหนักมากในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
การจัดงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับแต่งงาน จึงสมควรจะต้องคำนึงถึง
ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง (ยิ่งน้อยยิ่งดี) และคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องสูญเสียไป
ยิ่งเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้แล้วละก็ อะไรๆก็เงิน

.       ดังนั้น เรามาดูในแต่ละส่วน ว่าใช้จ่ายอย่างไร ให้คุ้มค่ากับการจัดงาน
งบประมาณใช้จ่าย สำหรับแต่งงาน ใครโชคดีหน่อย ก็มีที่บ้านเป็นคนช่วยดูแล
จัดการกันไป ใครที่ต้องบริหารจัดการเอง กว่าจะเก็บเงิน เก็บทองกันมาไม่ใช่เวลาน้อยๆกันเลยทีเดียว

หากคู่ไหนมีเวลา (1ปีขึ้นไป) ก็มีโอกาส ศึกษาหาข้อมูล พูดง่ายๆก็คือ “เลือกได้”
สามารถเลือกสิ่งที่ถูกทั้งใจ ทั้งเงินในกระเป๋าได้

.       ค่อยๆเตรียม ค่อยๆหา ไม่รีบ แต่หาก เหลือเวลาแค่ 6 เดือน ทุกอย่างดูร้อนรน
ไปหมด ต้องจอง ต้องทำนั้น ทำนี่ ถ้าไม่จัดงานแบบง่ายมากๆ
(เช่น จัดที่บ้าน แขกไม่เกิน 30 คน) อันนี้ กันเอง แต่ถ้าต้องเตรียมเอง
แขก 200+ อันนี้ วุ่นวายแน่นอน ตั้งแต่สถานที่กันเลยทีเดียว เพราะวันฤกษ์ดี
สถานที่สวย ราคาน่าคบ แย่งกันแน่นอน ถ้าไม่รีบจองก่อน เพราะทุกที่คือ ให้จองก่อน ได้ก่อนนะคะ

.       หากได้ฤกษ์ ได้สถานที่จัดงาน เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็ชุดบ่าวสาว ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมถึง แหวนแต่งงานชุดบ่าวสาว ถ้าจะตัดใหม่ ตัดเช่า แล้วละก็ แนะนำคะ  ต้องมีเวลาให้ร้านตัดชุดมากกว่า 4 เดือนขึ้นไป
และการถ่ายพรีเวดดิ้ง จะถ่ายกันเอง จะถ่ายสตูดิโอ อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคู่
อย่างที่บอก ยิ่งมีเวลามาก ก็ยิ่งได้หาของดี ราคาถูก

.       ต่อมาในส่วนสำคัญอย่าง เครื่องประดับ จะเป็นลำดับต้นๆที่คู่บ่าวสาว
มักจะให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ดังนั้นในการตั้งงบประมาณส่วนนี้ จำเป็นอย่างยิ่ง
จะต้องควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (สมองซีกขวา) ไม่ให้อยู่เหนือเหตุผล
และ ตรรกะความสมดุลทางการงิน (สมองซีกซ้าย) ให้ดี

.       คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่ นิยมที่จะเลือกแหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงานด้วยตนเอง
แต่มักไม่ค่อยมีเวลากันมากนัก ทำให้ราคาแหวนเพชรที่ได้ อาจมีราคาสูง หากเทียบกับคุณภาพหรือน้ำหนักเพชร

.       หากมีงบประมาณ หลักหมื่น โดยทั่วไป มักจะซื้อแหวนทองคำ เกลี้ยงๆ หรือ
แหวนทองพร้อมเพชรเม็ด 0.10 – 0.20 กะรัต
แต่ถ้าหาก ตั้งงบประมาณหลักแสน หลักล้านสำหรับแหวนหมั้นแล้วละก็
ตัวเลือกที่นิยมมากที่สุด คือ เพชรร่วง หรือ เพชรเม็ดเดี่ยว หรือ เพชรไซต์กะรัตขึ้นไป

.       ซึ่งแนะนำให้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานการซื้อเพชร ก่อนไปซื้อ
ทั้งนี้ในปัจจุบัน มีแหวนเพชรอีกรูปแบบหนึ่ง ที่นิยมไม่แพ้กันคือ การนำเพชรแท้
คัดเกรด มาดีไซน์จัดวางเข้าด้วยกัน ให้ดูเหมือนขนาดเพชรเม็ดกะรัต ในราคาหลักหมื่น
หรือที่เรียกว่า “เพชรต่อ” หรือ “เพชรประกบ”  ซึ่ง ถ้าหากอยากได้ครบชุด ทั้งแหวน จี้ ต่างหู
สามารถจัดการได้ในงบแสนต้นๆ และดูเพชรประกายเสมือนเพชรเม็ดใหญ่เม็ดเดียวเลย

ทางเลือกนี้เราสามารถประหยัดงบประมาณเรื่องค่าแหวนหมั้นไปได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
เพราะหากเทียบที่สี ความสะอาด และขนาดของเพชรแล้ว ราคาแตกต่างกันถึง 20-40 เท่าเลยทีเดียว

.       ตัวอย่างเช่น เพชร 1 กะรัต ที่น้ำ 98 (F color) VVS2 ราคา 328,000
แต่หากเลือกเป็นเพชรต่อ หรือ เพชรประกบ ราคาจะอยู่ที่ 15,000 บาทโดยประมาณ
เผลอๆอาจมีเงินเหลือเก็บเพิ่ม เผื่อไว้ในยามฉุกเฉินในอนาคตได้อีกด้วย

ฉะนั้นจึงเป็นอีก ทางเลือกนึง ที่จะลดภาระค่าใช้จ่าย ในการจัดงานแต่งงานไปได้ส่วนนึงเลยทีเดียว

สุดท้าย ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวทุกคู่ ที่ได้ตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน
สร้างครอบครัวใหม่ ด้วยความรัก ความเข้าใจคะ

🙂

Admin